http คืออะไร ? http ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol คือโพรโทคอลสื่อสารผ่าน internet ใช้ในการรับและส่งข้อมูล ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง Client และ Server โดยการส่งจาก Client ไป Server จะเรียกว่า http request
ส่วนข้อมูลที่ Server ตอบกลับมาที่ Client จะเรียกว่า http Response
http — Request รูปแบบของ request จาก Client ไป Server จะเป็นดังต่อไปนี้ อ้างอิงจากลิ้งนี้
เมื่อเอาโครงสร้างของ Request message ไปเทียบกับข้อมูลตอนที่เราใช้งานจริง จะแบ่งแต่ละส่วนได้แบบภาพข้างล่างนี้
RLF หมายถึง Carriage Return(\r) Line Feed(\n) หรือการขึ้นบรรทัดใหม่นั่นเอง
Request-Line จะเริ่มด้วย token method ตามด้วย Request-URI และ version ของ protocol จบด้วย CRLF ทุกส่วนจะถูกคั่นด้วยช่องว่าง (อักขระ SP)
เช่น GET /hello.html HTTP/1.1
Request Method http request จะกำหนด action ที่จะกระทำต่อข้อมูล method จะมีลักษณะเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดเสมอ
โดย method ที่สำคัญมี 4 ตัวคือ GET, POST, PUT, DELETE
- GET — เป็นการเรียกรับข้อมูลจาก URI ที่กำหนด method GET ควรใช้ในการดึงข้อมูลเท่านั้นและต้องไม่มีผลกระทบใด ๆ กับข้อมูล
- POST — ใช้สำหรับการสร้างข้อมูลใหม่โดยส่งข้อมูลผ่าน body
- PUT — ใช้สำหรับแทนที่ข้อมูลที่มีทั้งหมดด้วยข้อมูลใหม่ที่ส่งขึ้นไป
- DELETE — ใช้สำหรับลบข้อมูลที่มีอยู่ ของเป้าหมายที่กำหนดโดย URI
Request Header Fields header จะให้ ผู้ใช้ สามารถส่งผ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Request ของผู้ใช้ เช่น เป็นภาษาอะไร, ชนิดข้อมูลเป็นแบบไหน และนี่คือรายชื่อของ header ที่สำคัญบางอย่างที่สามารถเลือกใช้ได้
- Accept-Charset
- Accept-Encoding
- Accept-Language
- Connection
- Content-Length
- Content-Type
- Cookie
- Host
- User-Agent
Message-body เป็นส่วนสุดท้ายของ Request message จะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับส่งข้อมูลให้กับ server อาจจะมีหรือไม่มีการส่งก็ได้ขึ้นอยู่กับบริการที่เราเรียกด้วย
http — Response การ Response จะเกิดขึ้นหลังจากส่ง Request ไปที่ server แล้ว server ก็จะมีการตอบรับกลับมาซึ่งเราจะเรียกข้อความที่ตอบกลับมาว่า http-Response message โดย Response message จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือ Status-Line, Response Headers และ Message-body อ้างอิงจากลิ้งนี้
Status-Line Status-Line จะเริ่มด้วย version ของ protocol ตามด้วย status-code และ Reason-Phase จบด้วย CRLF ทุกส่วนจะถูกคั่นด้วยช่องว่าง(อักขระ SP)
Status-code http status-code จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ตามเลขที่อยู่ตัวหน้าสุด และที่ยกมาไว้จะเป็น Response ที่มักจะเจอ โดย Response อื่น ๆ สามารถไปอ่านต่อได้ใน Status Code Definitions เพื่อดูว่า status-code มีอะไรบ้างและความหมายอย่างไร
2xx (สำเร็จ) หมายความว่าการ request นั้นได้รับแล้วและกระทำตาม method สำเร็จโดย Server
- 200 Ok เป็นมาตรฐานของ HTTP Response นั้น Success สำหรับ GET, PUT หรือ POST
- 201 Create เป็น Response สำหรับข้อมูลใหม่ได้ถูกสร้างขึ้น ใช้สำหรับ POST
- 204 No Content เป็น Response สำหรับ request ที่ดำเนินการ Success แต่ไม่ได้ return ข้อมูลกลับ
3xx (Redirection)
- 304 Not Modified เป็น status code ที่บอกว่า client ได้รับการ Response แล้วอยู่ใน cache และไม่จำเป็นจะต้องส่งผ่านข้อมูลเดิมอีกครั้ง
4xx (Client error) โดย status ในกลุ่มนี้จะบอก client ว่า request ที่เข้ามา error
- 400 Bad Request บอกว่า request ที่ส่งมาโดย client นั้นไม่ถูกดำเนินการ และ Server ไม่เข้าใจว่า request เกี่ยวกับอะไร
- 401 Unauthorized บอกว่า client ไม่ได้รับอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลและควรจะส่ง credential มาพร้อม request
- 403 Forbidden บ่งบอกว่า request นั้นถูกต้องและ client ได้รับการอนุญาต แต่ Client ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลด้วยเหตุผลบางประการ
- 404 Not Found บ่งบอกว่า resource ที่ request มานั้น ไม่ว่างใช้งานตอนนี้
- 405 Gone บ่งบอกว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นไม่มีอยู่แล้ว หรืออาจจะย้ายไปที่อื่น
5xx (Server error)
- 500 Internal Server Error บอกว่าการ request นั้นถูกต้อง แต่ server มีความสับสนและจะบริการด้วยเงื่อนไขที่คาดการไม่ได้
- 503 Service Unavailable บอกว่า server ใช้การไม่ได้ หรือไม่ว่างที่จะรับและดำเนินการ request โดยส่วนใหญ่แล้ว server อยู่ในช่วงบำรุงรักษา